ชิปปิ้งจีน กับการใช้จิตวิทยาสีในการสร้างแบรนด์ เพื่อเพิ่มยอดลูกค้า
การทำธุรกิจในแต่ละแบรนด์นั้น กว่าที่จะมาเป็นแบรนด์ยอดนิยมได้นั้น ต้องมีการผ่านกระบวนการคิด การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดี เพื่อที่จะให้สินค้าและแบรนด์ของเรานั้นเป็นที่นิยม และติดตลาดขึ้นมาได้ ซึ่งการจะทำให้แบรนด์ของเราเป็นที่นิยมและติดตลาดขึ้นมาได้นั้น ต้องใช้ปัจจัยหลายๆอย่างเข้ามาเป็นตัวช่วยสร้างฐานลูกค้าให้มากขึ้นได้ ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์ของการสร้างแบรนด์ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้าได้เป็นอย่างมาก นั่นก็คือ การเลือกใช้สีในการสร้างโลโก้ นั่นเอง ซึ่งจริงๆแล้ว การใช้สีมาช่วยในการสร้างโลโก้นั้น ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ โดยได้มีงานวิจัยหลายๆ งานวิจัยมารองรับว่า “สี” มีอิทธิพลต่อความรู้สึกของผู้คนในแต่ละแบบออกไป นักวางแผนการตลาดหลายคน ก็ได้นำมาปรับใช้กับการสร้างแบรนด์ เพื่อสร้างจุดเด่นให้แบรนด์ของตนเป็นที่รู้จัก และกลายเป็นที่นิยมได้ในเวลาต่อมา ดังนั้น วันนี้ Shippingyou จึงจะได้มาบอกวิธีการสร้างแบรนด์ของคุณให้เป็นที่นิยมมากขึ้น โดยการใช้หลักการจิตวิทยาสีให้ได้ผล จะเป็นยังไง มาดูกัน
ชิปปิ้งจีน กับการใช้จิตวิทยาสีในการสร้างแบรนด์ ในการเพิ่มยอดลูกค้า
ซึ่ง สีนั้น ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวันของเราอยู่แล้ว เพราะไม่ว่าจะทำอะไร ย่อมต้องมีสีเข้ามาเกี่ยวข้อง พร้อมกันนั้นในลักษณะการจดจำของผู้คนที่มีกจะจดจำได้ง่ายมากที่สุด ก็คือ การจดจำสีนั่นเอง จึงถือได้ว่า ผู้คนนั้น สามารถจดจำ และให้ความสำคัญกับเรื่องสีได้ดีกว่าการรับรู้อื่นๆ
ดังนั้น การสร้างแบรนด์ หรือการทำการโปรโมทต่างๆนั้น จึงควรที่จะใช้สี มาเป็นส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความสนใจและการจดจำของผู้คนที่ง่ายมากยิ่งขึ้น การออกแบบโลโก้แบรนด์ หรือสินค้าต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับสีได้ดีนั้น จะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้คน และเพิ่มโอกาสการตัดสินใจซื้อสินค้า แล้วยังทำให้แบรนด์ของเราดูโดดเด่น ถือเป็นการสร้างเอกลักษณ์ให้แบรนด์ของเราน่าจดจำได้อย่างมากขึ้นอีกด้วย เพื่อจะได้สามารถเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจของผู้ซื้อกว่าแบรนด์คู่แข่ง
โดยสี่ที่มักจะถูกนำมาใช้ในการออกแบบโลโก้แบรนด์กันอย่างหลากหลาย เพราะเป็นสีที่อยู่ในกลุ่มที่มีอิทธิพลต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้คนได้มากที่สุด ได้แก่สีเหล่านี้
สีแดง ให้ความรู้สึกตื่นเต้น เร้าใจ
ว่ากันว่าสีแดงแล้ว เมื่อได้เห็น ก็จะส่งผลให้เกิดความรู้สึกที่ตื่นเต้น ร้อนแรง ที่จะกระตุ้นต่อความรู้สึกของผู้มองเห็นให้มีปฏิกิริยาตอบสนอง และความสนใจได้เป็นอย่างดี โดยสีแดงยังเป็นสีที่แสดงออกถึง ความรัก ความโรแมนติก ความตื่นเต้น และความปรารถนาได้ดี พร้อมกันนั้นยังเป็นสีที่สื่อถึงความอันตราย ดังจะเห็นได้ว่าสีแดงเป็นสีที่ถูกนำมาใช้ในสัญญาณป้ายจราจร หรือป้ายเตือนภัยทั้งหลายให้ระวัง เพราะเป็นสีที่ช่วยกระตุ้นความรู้สึกได้ดีถึงความอันตรายนั่นเอง นอกจากนี้ในทางการตลาด สีแดงก็ถูกนำมาใช้อย่างมากในการกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองของผู้ซื้อ ให้หันมาสนใจแบรนด์ของตนเองได้ดี
สีส้ม ให้ความรู้สึกมั่นใจ กระตือรือร้น สนุกสนานและสร้างสรรค์
โดยสีส้มนั้นจะมีความรู้สึกคล้ายๆสีแดง ที่แสดงออกถึงความมั่นใจและตื่นเต้น แต่ว่าสีส้มนั้นจะให้อารมณ์ที่อบอุ่นมากกว่าสีแดงที่ร้อนแรง ความอบอุ่นบวกกับความกระตือรือร้นที่สีส้มมีจึงนำไปสู่ความรู้สึกมั่นใจที่เป็นมิตร และความสนุกสนานในแบบสดใส สีนี้จึงเหมาะกับแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับเด็กๆที่ต้องมีการออกกำลัง ที่จะช่วยให้เกิดความกระตือรือร้นและความสนุกสนานได้ เช่น แบรนด์เกี่ยวกับกีฬา หรือเสื้อผ้าของเด็กๆ เป็นต้น เพราะจะช่วยสร้างอารมณ์ในการตอบสนองของเด็กๆ ต่อสัญลักษณ์ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
สีเหลือง ให้ความรู้สึกสดใส ร่าเริง มองโลกในแง่ดี
สีเหลืองเป็นสีที่ให้ความรู้สึกถึงความสุขได้ดีที่สุด เพราะเป็นสีแสดงถึงความเป็นมิตรและชีวิตชีวา ที่จะช่วยทำให้ผู้คนรู้สึกถึงการมองโลกในแง่ดี ขี้เล่น เป็นมิตร และความสนุกสนาน พร้อมกันนี้ยังให้ความรู้สึกถึง ความมั่งคั่ง ดั่งทองคำที่ส่องสว่าง สีเหลืองมักจะถูกนำมาทำเป็นตัวแทนของแบรนด์ที่ต้องการสื่อถึงความสดใส หรือแบรนด์ที่เกี่ยวกับเด็ก เพราะจะช่วยกระตุ้นให้ความความสนุกสนาน และความเป็นมิตรต่อแบรนด์ได้ดี อีกทั้งสีเหลืองยังเป็นสีที่ถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของการเตือนภัย ดังจะเห็นได้จากในป้ายจราจร หรือป้ายตามท้องถนน ที่มักจะทำเป็นสีเหลืองและสีแดง ทั้งนี้ก็เพราะว่าเป็นสีที่ทำให้ผู้ที่เห็นมีความรู้สึกตอบสนองได้ดี แต่ถ้ามากไปก็อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกถึงความกังวลได้ ดังนั้น จึงไม่ควรใช้สีเหลืองในตราโลโก้ให้มากจนเกินไป ที่จะให้ความรู้สึกถึงความหมายเปลี่ยนจากความสุข เป็นความกังวลจนเกินไปได้
สีเขียว ให้ความรู้สึกสดชื่น และเป็นธรรมชาติ
สีเขียวเป็นสีที่สื่อให้เห็นถึงความเป็นธรรมชาติได้ดีที่สุด ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สีเขียวเป็นสัญลักษณ์ จึงมักจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับธรรมชาติ รวมไปถึงการรักสุขภาพ และรักสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ สีเขียวยังช่วยในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ การผ่อนคลาย และความเป็นมิตร และเป็นสีที่แสดงถึงการเจริญเติบโตได้ดี สีเขียวจึงมักถูกนำมาใช้แสดงถึงสัญลักษณ์ในแง่ดีและเติบโตอย่างราบรื่นอยู่เสมอๆ เช่น กราฟหุ้น ที่หากหุ้นขึ้นก็จะแสดงเป็นสีเขียว
สีน้ำเงิน ให้ความรู้สึกเชื่อใจ ไว้วางใจ
สีน้ำเงินนั้น เป็นสีที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สงบ เพราะเป็นเสมือนตัวแทนของท้องฟ้าและน้ำทะเล จึงให้อารมณ์ที่ไกล้เคียงกับความเป็นธรรมชาติ อีกทางหนึ่งก็เป็นสีที่เปรียบเสมือนสติปัญญา ที่ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และความเป็นผู้ใหญ่ โดยในทางการตลาดแล้วก็จะนำมาใช้สื่อถึงความเป็นมืออาชีพ ความเข้มแข็ง และความเป็นระเบียบ ดังนั้นแบรนด์ที่มักจะนำสีน้ำเงินไปออกแบบตราโลโก้จึงมักจะเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ ที่ต้องการความน่าเชื่อถือและไว้วางใจจากผู้ใช้ เช่น แบรนด์เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ แบรนด์ขายรถยนต์ หรือแม้กระทั่งเว็บไซต์ชื่อดัง อย่าง Facebook เป็นต้น
สีขาว ให้ความรู้สึกสะอาด บริสุทธิ์
สีขาว เป็นสีที่แสดงให้เห็นถึงความสะอาดและบริสุทธิ์ ความไร้เดียงสา ความเรียบง่าย สบายตา ไม่มีความสกปรกมาปะปน สีขาวจึงมักถูกนำมาใช้ในการสร้างแบรนด์ที่เกี่ยวกับความสะอาด เช่น ผลิภัณ์ทำความสะอาดทั้งหลาย และสินค้าที่เกี่ยวกับเด็ก เพราะเด็กก็เป็นตัวแทนที่แสดงถึงความสะอาด บริสุทธิ์ และไร้เดียงสา
สีดำ ให้ความรู้สึกลึกลับ และพลังที่ยิ่งใหญ่
โดยสีดำนั้น จะมีความแตกต่างกับสีขาวโดยสิ้นเชิง เพราะหากสีขาวเปรียบเสมือนกับความขาวสะอาดบริสุทธิ์แล้ว สีดำก็เป็นสีที่บ่งบอกถึงความมืดมน เศร้าโศก แต่สีดำนั้นไม่ได้แสดงถึงความไม่ดีเพียงอย่างเดียว แต่ให้ความรู้สึกที่มากกว่านั้น เพราะสีดำเป้นสีที่ลึกลับ ความทรงพลัง และความเรียบหรู ที่สามารถเข้าถึงได้ อีกทั้งสีดำยังเป็นสีที่แสดงถึงความฉลาดที่น่าค้นหา และสีดำนั้นเป็นสีที่สามารถเข้ากับสีอื่นๆได้ง่าย จึงมักถูกนำไปออกแบบโลโก้แบรนด์ที่ผสมผสานกับสีอื่น เพื่อช่วยเพิ่มความยิ่งใหย่และลึกลับน่าค้นหาให้แก่แบรนด์
สีน้ำตาล ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง สมเป็นชายชาตรี
โดยสีน้ำตาลจะเป็นสีที่แสดงถึงการเชื้อเชิญ ความอบอุ่น ความแข็งแกร่งดั่งชายชาตรี อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นธรรมชาติและความอยากอาหารอีกด้วย เช่น สีช็อคโกแล็ต ที่ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้ดี สีน้ำตาลจึงมักถูกนำไปออกแบบในแบรนด์ที่ต้องการความแข็งแกร่ง และอาหาร เป็นต้น
เลือกสี ให้เข้ากับตัวตนของแบรนด์เรา
หลังจากรู้ว่าจิตวิทยาของแต่ละสีนั้น แสดงออกถึงความรู้สึกอะไรกันบ้างแล้ว ทีนี้ ก็มาดูกันว่า แบรนด์ของสินค้าจากธุรกิจของเรานั้น จะเหมาะกับสีอะไร เพราะธุรกิจที่เราทำแต่ละอย่างนั้น ก็มีจุดประสงค์ของความต้องการในกลุ่มลูกค้าที่ไม่เหมือนัน ดังนั้น จึงต้องมาคิดก่อนว่า แบรนด์ของเรานั้นทำอะไร สื่อถึงอะไร และมีจุดเป้าหมายคืออะไร จะนำนำมาเลือกสีโลโก้แบรนด์ให้ตรงกับสินค้าของเราได้ เช่น หากเราทำแบรนด์ที่ต้องการความเชื่อถือ ไว้ใจจากผู้ใช้ ก็ควรเลือกแบรนด์ที่ออกแบบด้ยสีน้ำเงิน หรือหากเราทำแบรนด์สินค้าที่เกี่ยวกับผลิตภัณ์ที่เกี่ยวกับเด็ก ที่ต้องการสร้างความสนุกสนาน เช่น ของเล่นเด็ก หรือเสื้อผ้ากีฬาเด็ก ก็ควรที่จะเลือกสีโลโก้แบรนด์เป็นสีส้ม สีเหลือง เป็นต้น
การเลือกใช้สีของแบรนด์จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยแสดงให้เห็นถึงความเป็นตัวตนของแบรนด์เราได้เป็นอย่างดี ให้แสดงออกมาให้ลูกค้าสามารถรับรู้และเข้าใจได้ผ่านสีแบรนด์ที่เราเลือก โดยการที่เราจะเลือกนั้น ก็ควรที่จะเลือกสีให้เหมาะกับแบรนด์ของเราจริงๆ เพื่อให้เราสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าของเราได้อย่างถูกต้องตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เพื่อให้แบรนด์ของเราสามารถเข้าถึงลูกค้าได้เป็นอย่างดีและอย่างจริงใจ สามารถทำให้เกิดความสนใจและการตอบสนองต่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราให้ได้ เพื่อที่จะช่วยให้แบรนด์ของเราเติบโตและกลายไปสู่แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จได้อย่างแท้จริงค่ะ
และสำหรับผู้อ่านคนไหนที่ต้องการที่จะประกอบธุรกิจ หรือสร้างแบรนด์เป็นของตนเองแล้ว แต่ยังไม่รู้ที่จะเริ่มทำอะไร หรืออยากจะเริ่มต้นจากการทดลองทำธุรกิจที่เล็กๆ และเป็นไปได้เสียก่อน อย่างการเริ่มเปิดร้านขายสินค้าที่ตนเองชอบ ผู้เขียนก็แนะนำ การทำธุรกิจการขายสินค้า ผ่านการสั่งซื้อและนำเข้าสินค้ามาจาก “ชิปปิ้งจีน“ ซึ่งถือได้ว่าเป็นธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยม และให้กำไรดี เพราะการนำเข้าสินค้ามาจากชิปปิ้งจีนนั้น จะทำให้คุณได้รับสินค้าในราคาที่ถูกกว่า เพื่อนำไปขาย ต่อยอดและสร้างกำไรให้ตนเองได้อย่างไม่ยาก ทั้งการนำเข้าสินค้าจากชิปปิ้งจีนเข้ามาก็เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวก ซึ่ง Shippingyou ก็มีบริการนำเข้าสินค้าจากชิปปิ้งจีน โดยนำเข้ามาถึงมือคุณได้อย่างง่ายๆ และไม่ต้องรอนาน โดยสามารถดูวิธีการและขั้นตอนการนำเข้าสินค้าจากชิปปิ้งจีนมาไทยได้ ที่นี่!!
.
.
Pingback: ชิปปิ้งจีน โอกาสของผู้ประกอบการไทย กับกระแส E-Commerce จีน ชิปปิ้งจีน