1688 ข้อดี VS ข้อจำกัดของ Shipping Line และ Freight Forwarder

1688 Shipping Line VS Freight Forwarder 1688 1688 ข้อดี VS ข้อจำกัดของ Shipping Line และ Freight Forwarder Shipping Line VS Freight Forwarder shippingyou 768x402

1688 ในโลกของการนำเข้าสินค้าจากจีนและโลจิสติกส์ หลายคนคงเคยได้ยินคำศัพท์มาแล้วมากมาย คุ้นหูบ้าง ไม่คุ้นหูบ้าง อาทิ Shipping Lines, Freight Forwarders, Cargo Lines, Airplanes ฯลฯ

วันนี้ Shippingyou มีข้อมูลมาฝากเกี่ยวกับเรื่องของ Shipping Lines และ Freight Forwarder มาฝากสำหรับผู้ต้องการนำเข้าสินค้าจากจีนจากการสั่งสินค้าผ่าน 1688 ตลอดจนการส่งออกสินค้า รวมทั้งผู้ประกอบการขนส่งสินค้า ก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการ

Shipping Lines หมายถึง สายการเดินเรือขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ระหว่างประเทศ สำหรับนำเข้าและส่งออกจากท่าเรือต้นทางไปสู่ท่าเรือปลายทาง

Freight Forwarder (FF) หมายถึง ผู้ขนส่งสินค้าที่ให้บริการนำเข้าและส่งออกสินค้าให้กับลูกค้า ซึ่ง FF มักไม่มีท่าเรือของตัวเอง ต้องประสานงานกับสายการขนส่งทางเรือ สายการขนส่งทางเครื่องบิน หรือบริษัทขนส่งรถบรรทุก รวมไปถึงดำเนินพิธีการศุลกากร และฝ่ายโลจิสติกส์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง นอกจากนี้ การใช้บริการกับ FF มักจะมีบริการเสริมพิเศษอื่นๆ ซึ่งสร้างความสะดวกสบาย ทำให้ลูกค้าไม่ต้องติดต่อหรือประสานงานกับหลายๆ บริษัทด้วยตัวเอง  

ความแตกต่างระหว่าง Shipping Line และ Freight Forwarder

ความเป็นเจ้าของเรือ

Freight Forwarder ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นเจ้าของเรือ มักจะขอเช่าพื้นที่ตู้คอนเทนเนอร์บนเรือเพื่อบรรทุกสินค้า อาจจะเป็นจำนวน 1 ตู้หรือมากกว่านั้น ในขณะที่ Shipping Lines เป็นเจ้าของเรือและส่วนใหญ่มีท่าเรือของตัวเอง อย่างไรก็ตาม Freight Forwarder มักจะทำงานใกล้ชิดกับบริษัทที่ให้บริการสายการเดินเรือ ทำให้เป็นตัวกลางระหว่างสายการเดินเรือกับลูกค้า และเจ้าของธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้า เนื่องจาก Freight Forwarder ต้องรวมสินค้าของลูกค้าจากที่ต่างๆ ไว้ในตู้คอนเทนเนอร์เดียวกัน  มิฉะนั้น หากขอเช่าพื้นที่เต็มตู้ แต่สินค้ามีปริมาณน้อย ก็ไม่คุ้มกับราคาค่าเช่า ซึ่งส่วนใหญ่ สายการเดินเรือมักจะให้เช่าแบบเต็มตู้คอนเทนเนอร์มากกว่า

เครือข่ายของผู้ให้บริการ

Freight Forwarder เป็นการให้บริการย่อยอื่นๆ เพื่อให้บริการนำเข้าและส่งออกสินค้า นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจึงเรียกว่า ผู้ส่งต่อหรือ Forwarder อย่างไรก็ตาม Freight Forwarder ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับสายการเดินเรือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังหมายถึงยังเป็นนายหน้าในการจัดการผ่านพิธีการศุลกากร ดีลกับบริษัทรถบรรทุก คลังสินค้า ฯลฯ Freight Forwarder  ยังให้บริการสิ่งที่จำเป็นในการขนส่งสินค้าจากต้นทางไปยังปลายทางอีกด้วย

ดังนั้น ข้อดีของการใช้บริการ Freight Forwarder ก็คือคุณไม่ต้องเสียเวลาในการติดต่อว่าจ้างบริษัทหลายๆ แห่ง โดยเฉพาะการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เช่น นำเข้าสินค้าจากจีนผ่านเว็บไซต์ 1688 ซึ่งต้องผ่านกระบวนการและติดต่อกับหลายหน่วยงาน การใช้บริการกับ Freight Forwarder  แต่เป็นการดำเนินการที่รวมทุกอย่างไว้ในสัญญาเดียวกับ Freight Forwarder ซึ่ง Shipping Line นั้น ไม่สามารถให้เพิ่มเติมบริการอื่นๆ เข้าไปได้ และบางครั้ง Shipping Line อาจจะบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์จากท่าเรือหนึ่งไปยังท่าเรือปลายทาง แต่ไม่ได้มีบริการด้านเอกสาร และการดำเนินพิธีการศุลกากร ตลอดจนบริการอื่นๆ เสริมแต่อย่างใด

พื้นที่ของคลังสินค้า

Freight Forwarder มักจะมีสถานที่สำหรับเก็บรวบรวมสินค้าเอาไว้สำหรับเตรียมจัดส่ง บางครั้งอาจหมายถึง สถานีขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ Container Freight Station (CFS) พวกเขาใช้สถานที่นี้สำหรับโหลดและไม่โหลดตู้สินค้า การรับสินค้าเข้ามาจากเรือเพื่อเตรียมส่งกระจายสินค้า และเก็บรายการสินค้าที่จะส่งออกทั้งหมด ซึ่งมาจากบริษัทต่างๆ เพื่อเก็บรวมเข้าไว้ในที่เดียว ในขณะที่สายการเดินเรือและสายการบินจะไม่มี CFS เพราะว่าไม่มีการรวมเข้าไว้ด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้บริการ Shipping Lines หรือ Freight Forworder ยังขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าด้วย เนื่องจากสินค้าบางอย่างที่คุณสั่งทาง 1688 เสี่ยงต่อการแตกหัก ชำรุดเสียหาย จึงอาจจะเหมาะกับการขนส่งอีกรูปแบบหนึ่ง คลิกอ่านเพิ่มเติมที่ เลือกขนส่งอย่างไร ให้ปลอดภัยกับสินค้า นอกเหนือจากนี้ ปัจจุบันยังมีเทรนด์การขนส่งรักษ์โลกที่ประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศ ได้รณรงค์ให้มีการขนส่งที่ช่วยลดภาวะโลกร้อน อาทิ การรวมสินค้าจากผู้ประกอบการหลายรายไว้ที่จุดพักสินค้า แล้วจัดเส้นทางเพื่อขนส่งสินค้าร่วมกัน ตลอดจนการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้เพื่อลดพลังงาน เป็นต้น