สำหรับ วัตถุประสงค์ของกฎระเบียบ ดังกล่าว มีขึ้นเพื่อปรับปรุงสุขภาพของมนุษย์ โดยการลดมลพิษทางอากาศ เฉพาะเรือที่ติดตั้งอุปกรณ์ทำความสะอาดเท่านั้น ที่จะได้รับอนุญาตให้เผาไหม้เชื้อเพลิงที่มีกำมะถันสูงต่อไปได้ โดยที่เจ้าของเรือยังสามารถเลือกแหล่งเชื้อเพลิงสะอาดๆ จากแหล่งอื่นๆ มาทดแทนได้ เช่น ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG)

อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบดังกล่าวได้ หรือเกิดความล้มเหลวขึ้นมา จะส่งผลให้โดนค่าปรับหรือเรือถูกคุมขังเอาไว้ และในบางเขตอาจมีความเสี่ยงต่อการถูกจำคุกเลยทีเดียว ซึ่งส่งผลกระทบต่อข้อกำหนดที่สำคัญ เช่น การประกัน

จะมีเชื้อเพลิงเพียงพอหรือไม่?

ด้านผู้ผลิตน้ำมัน รวมถึง BP (BP.L) และ Royal Dutch Shell (RDSa.AS) ได้ประกาศว่าพวกเขากำลังผลิตเชื้อเพลิงกำมะถันต่ำมาก ซึ่งตรงตามข้อกำหนดที่ 0.5% ในขณะที่ท่าเรือน้ำมันเชื้อเพลิงขนาดใหญ่ เช่น สิงคโปร์ รัฐฟูไจราห์ในสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ และเมืองนอทเทอร์ดัมในเนเธอร์แลนด์ ยังพอมีแหล่งเชื้อเพลิงที่สอดคล้องตามมาตรฐาน

เกี่ยวกับ Scrubbers คืออะไร?

Scrubber เป็นระบบบำบัดอากาศเสีย บำบัดกลิ่น ใช้สำหรับบำบัดบำบัดก๊าซเสีย มลพิษ ไอกรด ไอสารเคมี ที่เกิดจากกระบวนการผลิต เช่น กรดซัลฟูริกหรือกรดกำมะถัน (Sulfuric acid), โซดาไฟ (Sodium Hydroxide), กรดเกลือ (Hydrochloric acid) (HCl) เป็นต้น โดยอาศัยหลักการทำงานแบบสัมผัสกันระหว่างอากาศเสียกับของเหลว (น้ำหรือสารละลายเคมี)

สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับระเบียบ IMO 2020 และการควบคุมการปล่อยก๊าซซัลเฟอร์

องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO : International Maritime Organization) ออกกฎควบคุมซัลเฟอร์ต่ำจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 และกำหนดให้บริษัทขนส่งหรือชิปปิ้งทั้งหมดลดการปล่อยซัลเฟอร์ของพวกเขาลง 85%

กฎระเบียบใหม่นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของอุตสาหกรรมและปรับปรุงคุณภาพอากาศ อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มที่กลุ่ม CMA CGM (กลุ่มการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ชั้นนำของโลก ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดย Jacques R.Saade นำเสนอแนวทางแก้ปัญหาที่มีคุณภาพสูงสุดแบบ Door-to-Door และครอบคลุมทั่วโลก) มีส่วนร่วมมานานกว่า 15 ปี ผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคตคือ

• เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำมันเตากำมะถันต่ำ (พร้อมกำมะถัน 0.5%) สำหรับยานพาหนะ
• การลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ โดยการใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับเรือคอนเทนเนอร์ในอนาคต (20 ลำ ในปี 2565 รวมถึง 9 ลำ 23,000 TEUs) ส่งผลให้มีการลดการใช้ก๊าซซัลเฟอร์ออกไซด์ และการปล่อยอนุภาคละเอียดได้ 99%
• ช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตก่อนวัยควรจากโรคหัวใจและมะเร็งปอด
• ลดมลพิษทางอากาศและส่งผลให้สภาพแวดล้อมสะอาดยิ่งขึ้น
• ลดฝุ่นละอองอนุภาคขนาดเล็กที่เกิดจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง